ค้นหาทุกเรื่องราว..ได้ที่นี่

Custom Search

วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

4 อาหารสลายพุง

ด้วย วัฒนธรรมการกินที่เปลี่ยนไป ทำให้หนุ่มสาววัยใสที่กินไม่ระวังเริ่มตุ้ยนุ้ยก่อนวัยอันควร ใครกำลังหนักใจ เรามีอาหารที่มีการศึกษาว่าช่วยสลายไขมัน โดยเฉพาะไขมันรอบเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝาก ลองกินตามสูตรนี้ดูนะคะ


1. อโวคาโด้ อะโวคาโดอุดมไปด้วยสารเบตาซิสโตสเตอรอล ซึ่งช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอล มีเส้นใยอาหาร ทั้งชนิดที่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย และชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งช่วยป้องกันอาการท้องผูก ปริมาณแนะนำต่อวัน: ¼ ถ้วย

2. บรอกโคลี่ นัก วิจัยระบุว่าสารอาหารอย่างแคลเซียมช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีที่จะสะสมไว้ เป็นไขมันส่วนเกินได้ และบร็อกโคลี่ก็มีดีที่เป็นแหล่งแคลเซียมซึ่งไม่มีไขมัน ปริมาณแนะนำ: 1 1/2 ถึง 2 ถ้วย

3. ถั่วและเมล็ดพืช มี คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง พิสทาชิโอ ปริมาณแนะนำต่อวัน: 2 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมัน เลือก กินน้ำมันที่มีประโยชน์ช่วยลดน้ำหนักได้ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันชา น้ำมันถั่วเหลือง ปริมาณแนะนำต่อวัน: 1 ช้อนโต๊ะ



นอกจากดูแลเรื่องอาหารการกินแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

7 ขั้นตอน ตรวจภายใน ด้วยตัวเอง

วันนี้เรามีเทคนิคการตรวจภายในช่องคลอดเบื้องต้นด้วยวิธี ง่ายๆ และสะดวก แต่จะช่วยให้คุณรู้และรักษาอาการผิดปกติบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณได้อย่างทัน ท่วงที ถ้าพบ!



1. ล้างมือให้สะอาดก่อนเริ่มตรวจ จากนั้นจัดท่าของตัวเองว่าจะนั่งหรือนอนอย่างไรให้เห็นอวัยวะเพศของตัวเอง ได้ดีที่สุด อาจจะนอนชันเข่าหลังพิงฝาโดยใช้หมอนหนุนหลัง หรือนั่งยองๆ นั่งคุกเข่า ท่าใดท่าหนึ่งก็ได้ที่คิดว่าสะดวกที่สุด



2. หากระจกที่สามารถใช้ถือดูอวัยวะเพศของคุณมา 1 บาน



3. ให้ใช้มือข้างที่ถนัดแยกแคมใหญ่ทั้งสองข้างออกจากกัน แล้วมองและคลำดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ก้อน ตุ้มแข็ง ตุ้มน้ำ แผล รอย บวม หรือมีบริเวณที่สีเปลี่ยนไป คล้ำมากหรือแดงมากหรือไม่



4. จากนั้นใช้นิ้วแยกแคมเล็กออกจากกันตรวจหาความผิดปกติต่างๆ แบบเดียวกับขั้นตอนที่ 3 แล้วตรวจดูที่บริเวณรูเปิดท่อปัสสาวะว่ามีอาการบวมแดงหรือเปล่า และใช้มือดึงรั้งผิวหนังที่คลุมบริเวณคลิตอริสขึ้นไป เพื่อตรวจดูว่ามีแผลหรือไม่



5. ใช้นิ้วมือสองนิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอดแล้วกดแยกหนังช่องคลอดออกจากกัน สังเกตตกขาวใน ช่องคลอด ถ้าเป็นสีขาวขุ่น เป็นมูกเหนียวหรือมูกใส มีกลิ่นคราวเล็กน้อย แสดงว่าเป็นตกขาวปกติ แต่ถ้ามีลักษณะคล้ายคราบนมที่เด็กแหวะออกมา และมีอาการคันด้วย แสดงว่าอาจมีเชื้อราหรือเชื้อพยาธิในช่องคลอด ถึงเวลาที่ต้องไปพึ่งคุณหมอสูติฯ แล้วล่ะ



6. ใช้นิ้วมือคลำบริเวณส่วนล่างของ แคมใหญ่ทั้งสอง โดยให้นิ้วมือหนึ่งอยู่ในช่องคลอด และอีกนิ้วหนึ่งอยู่ที่ส่วนล่างของแคมใหญ่ ดูว่ามีก้อนคล้ายถุงน้ำบริเวณนั้นหรือเปล่า เพราะเป็นตำแหน่งของต่อมที่สร้างมูกออกมาช่วยหล่อลื่นในช่องคลอด ซึ่งท่อที่ปล่อยมูกนี้มักเจอปัญหาอุดตันได้บ่อย ถ้าคลำได้เป็นก้อนนิ่มๆ ล่ะก็อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้อักเสบเป็นหนองได้



7. สุดท้ายตรวจบริเวณฝีเย็บและรูทวารว่ามีก้อนเนื้อที่เรียกว่า ริดสีดวงทวาร หรือเปล่า ถ้ามีก็รีบปรึกษาหมอว่าจะมีวิธีรักษาอย่างไร ไม่อย่างนั้นจะลำบากเวลาขับถ่าย

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สมุนไพร พิชิตหนาว... หนาวนี้กินอะไรดี ?


ฤดูหนาวรับประทานอะไรดี
สำหรับ การรับประทานอาหารในช่วงฤดูหนาว สาวๆ อย่างเราควรเลือกรับประทานอาหารที่ร้อนและปรุงเสร็จใหม่ๆ ควรมีรสเปรี้ยวอมขมเล็กน้อย และรสเผ็ด เช่น แกงส้มดอกแค แกงขี้เหล็ก แกงป่า สะเดาน้ำปลาหวาน และน้ำพริก เพราะธรรมชาติจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ผักพื้นบ้านและพืชสมุนไพรในฤดูต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน ในฤดูหนาว มักจะมีสมุนไพรพื้นบ้าน เช่น สะเดา ซึ่งมีรสขม เมื่อกินแล้วจะช่วยแก้ไข้ ทำให้เจริญอาหาร ขี้เหล็กมีสรรพคุณช่วยระบาย ดอกแคแก้ไข้หัวลม ซึ่งสาว WP ควร เลือกรับประทานผักพื้นบ้านที่มีอยู่ตามฤดูกาล ส่วนการเลือกเครื่องดื่มในช่วงหน้าหนาวนี้ ควรจะเป็นเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น น้ำขิง ชาสมุนไพร เพื่อช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ แก้หวัด ซึ่งป้องกันการเป็นหวัดในช่วงนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย

หน้าหนาวควรดูแลร่างกายอย่างไร
ด้วย อากาศที่หนาวเย็น เราควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา แต่บางครั้งการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งง่ายกว่าอาบน้ำเย็น เพราะน้ำมันที่ผิวหนังจะถูกชะล้างออกไป รวมทั้งความชื้นของอากาศที่ลดลง ก็จะเพิ่มให้ผิวแห้งแตกและคันได้ง่าย ดังนั้น สาวๆ ควรจะดูแลร่างกายในช่วงหน้าหนาวนี้เป็นพิเศษ โดยสามารถนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้ดูแลผิวพรรณ อย่าง น้ำมันงา ขมิ้นชัน ผิวมะนาว และผิวมะกรูด

สมุนไพรดูแลผิวพรรณ
+ น้ำมันงา นำงาดิบประมาณ 1 ถ้วย โขลกให้ละเอียด บีบเอาน้ำมันจากงาเก็บไว้ในขวด ทาผิวตอนเช้าและก่อนนอน น้ำมันงาจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแห้งแตกและคัน
+ ขมิ้นชัน มีสรรพคุณช่วยลดอาการคันและช่วยลดอาการผดผื่นตามผิวหนัง เพียงนำขมิ้นชันสดมาล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียด บีบน้ำที่ได้นำมาทาผิว หลังอาบน้ำเช้า-เย็น แต่อาจจะมีสีของขมิ้นติดตามเสื้อผ้าที่สวมใส่
+ ผิวมะกรูด น้ำมันที่ผิวของมะนาวและมะกรูด จะช่วยเคลือบผิว ให้ชุ่มชื้น ลดอาการคัน ลดการอักเสบ โดยนำมะนาวที่ใช้แล้ว ส่วนบริเวณผิวด้านนอกของมะนาว มาทาผิวบริเวณที่แห้งคัน เช้า-เย็น ก็จะช่วยลดอาการคันได้

การดูแลสุขภาพด้วยการอาบสมุนไพร
การ อาบน้ำอุ่นในฤดูหนาวจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เพราะในฤดูหนาว คนส่วนใหญ่มักจะเป็นหวัด คัดจมูก และคันตามผิวหนัง ซึ่งหากนำสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการคัน มาต้มอาบแทนน้ำเปล่า ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี สมุนไพร ที่หาได้ง่าย ที่ควรนำมาต้มมีดังนี้

• ยอดผักบุ้ง จำนวน 5 ยอด ใช้รักษาอาการคัน
• ใบมะกรูด จำนวน 3-5 ใบ แก้วิงเวียน ช่วยให้หายใจสบาย
• ใบมะขาม/ใบส้มป่อย 1 กำมือ แก้อาการคันตามร่างกาย ช่วยให้ผิวหนังสะอาด
• ต้นตะไคร้ จำนวน 3 ต้น บำรุงธาตุไฟ
• หัวไพล จำนวน 2-3 หัว ลดอาการอักเสบ ปวด บวม
• ใบหนาด จำนวน 3-5 ใบ ช่วยบำรุง แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลือง
• หัวขมิ้นชัน จำนวน 2-3 หัว ช่วยสมานแผล แก้คันตามผิวหนัง
• การบูร จำนวน 15 กรัม ช่วยบำรุงหัวใจ
• หัวหอมแดง จำนวน 3-5 หัว แก้หวัดคัดจมูก

เพียง นำสมุนไพรทั้งหมดมาต้มรวมกัน ผสมน้ำเย็นให้พออุ่น แล้วนำมาอาบ สรรพคุณของสมุนไพรก็จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการคันตามผิวหนัง ช่วยให้หายใจโล่ง แค่นี้สาวๆ ก็จะรู้สึกสบายตัว ไม่ต้องกังวลกับฤดูหนาวแล้วค่ะ

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ผลไม้ใกล้ตัวที่กินแล้ว อ้วน


ทราบหรือไม่ว่าการกินผลไม้นอกจากมีประโยชน์แล้วยังสามารถทำให้อ้วนได้อีก
วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีมาบอก...

การกิน ผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมี ผลไม้ บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้ อ้วน ได้


ผลไม้

ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่


อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า

อันดับ 3 คือ ขนุน

อันดับ 4 คือ กล้วยหอม

อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก

อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว

อันดับ 7 คือ ลองกอง

อันดับ 8 คือ เงาะ

อันดับ 9 คือ ลางสาด

อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด

แต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากอ้วนจนเกินไป ลองหาผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนมากินกันได้

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ล้างพิษสารเคมีให้เส้นผม


เส้นผมเมื่อได้รับการจัดแต่งทรงผม ได้รับมลพิษมากๆ เข้าก็อาจจะหมักหมมเก็บกักเอาสารพิษไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว เราจะมาล้างสารพิษออกด้วยน้ำส้มสายชูค่ะ


เตรียมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย และน้ำอุ่น 3 ถ้วยค่ะ นำมาผสมกันแล้วนำมาล้างเส้นผมให้ทั่ว ค่อยๆ ล้างออกทีละหย่อมนะคะ ให้ทั่วศีรษะ สารเคมีที่ตกค้างอยู่บนเส้นผมเช่นพวกสเปรย์ เจล ก็จะถูกขจัดออกให้หมดไป จะทำให้เส้นผมกลับสู่สมดุลและดกดำอีกครั้งค่ะ

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

น้ำตาล....ตัวทำลายผิว

Sugar Free

ถ้าคุณคิดว่าการทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดปกป้องผิวของคุณได้ ขอบอกเลยค่ะว่าคุณคิดผิด เพราะล่าสุดได้มีการวิจัยของแบรนด์เครื่องสำอางดังหลายแบรนด์ออกมาว่า น้ำตาล ถือเป็นตัวทำลายผิวของเราได้ด้วยเช่นกัน



น้ำตาลเป็นตัวทำลายโครงสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนจริงหรือเปล่า

น้ำตาลเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนในผิวเท่านั้น ผิวของคนเรามีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำลายผิวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นอายุ สิ่งแวดล้อม หรือแม้กระทั่งอาหาร ก็สามารถเป็นสาเหตุของการทำลายโครงสร้างอีลาสตินและคอลลาเจน โดยสังเกตได้จากคนที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีสภาพผิวที่ค่อนข้างกร้านกว่าคนทั่วไป และริ้วรอยที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ชัดมาก เนื่องจากเอนไซม์และน้ำตาลได้เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว




น้ำตาลจะเข้าไปทำลายผิวตั้งแต่เมื่อไร

จริงๆ น้ำตาลจะเข้าไปทำลายผิวตั้งแต่วัยเด็กแล้ว แต่ด้วยกลไกลการทำงานของผิวในวัยเด็กจะถูกทดแทนทันทีหลังจากถูกทำลาย มีกระบวนการซ่อมแซมที่ดีกว่าผิวของผู้ใหญ่



ผิวที่ถูกน้ำตาลทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จะมีลักษณะอย่างไร

น้ำตาลจะเข้าไปจับคอลลาเจนให้เกิดการแข็งตัว พอแข็งตัวก็จะแตกและเปราะหักง่าย หลังจากอีลาสตินและคอลลาเจนเปราะหักแล้ว ผิวตรงนั้นก็จะเกิดการยุบตัวลง ลักษณะจะเหมือนที่นอนสปริงที่เกิดการหัก เมื่อนอนตรงนั้นก็จะเกิดการยุบตัว ผิวของเราก็เช่นกัน เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ผิวบริเวณนั้นก็จะยุบตัวทันที เมื่อเกิดการยวบตัวลง ถ้ามองจากภายนอก บริเวณนั้นจะเกิดเป็นริ้วรอย และริ้วรอยจะตื้นหรือลึกก็ขึ้นอยู่กับผิวของเราโดนทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินมากน้อยแค่ไหน




เราจำเป็นต้องควบคุมน้ำตาลมากน้อยแค่ไหน

การควบคุมน้ำตาลจะช่วยในระดับหนึ่งเท่านั้นสำหรับการป้องกันเรื่องริ้วรอย แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะบริโภคน้ำตาลไม่ได้เลย เนื่องจากร่างกายของเรายังต้องการพลังงานจากน้ำตาลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างพลังงาน เมื่อเราทานข้าว ขนมปัง ก็มีกลูโคส ซึ่งกลูโคสก็จะกลับมาในรูปพลังงานให้เรามีแรง แต่ถ้ารู้สึกกลัว ก็แค่บริโภคให้พอเหมาะกับความต้องการ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกัน เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญเป็นผลให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายลดน้อยลง



หันมาบริโภคน้ำตาลเทียมแทนจะช่วยได้หรือเปล่า

การบริโภคน้ำตาลเทียมไม่ได้ช่วยอะไร เพราะถ้าทุกคนยังทานอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ข้าว หรือแม้กระทั่งเส้นก๋วยเตี๋ยว ล้วนแต่ทำมาจากแป้ง ซึ่งกระบวนการย่อยอาหารจำพวกแป้งจะทำหน้าที่เปลี่ยนแป้งให้เป็นกลูโคส กลูโคสถือเป็นหน่วยย่อยเล็กที่สุดของแป้งหรือของน้ำตาลที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่พอมีกลูโคสมากเกินไปในร่างกายและไม่ได้เผาผลาญออกมา กลูโคสก็จะไปจับกับคอลลาเจนและอีลาสติน สุดท้ายก็จะส่งผลต่อผิวได้ในที่สุด



การออกกำลังกายจะช่วยได้หรือเปล่า

การออกกำลังกายถือเป็นเรื่องดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ ยิ่งบริโภคน้ำตาลมากไปเท่าไหร่ควรมีการเผาผลาญโดยการออกกำลังกายมากขึ้นตามด้วย ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เริ่มตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป เพราะช่วงระยะเวลา 15-20 นาทีแรก ร่างกายจะใช้พลังงานจากน้ำตาลก่อน หลังจากนั้นจะใช้จากไขมัน ถือว่าการออกกำลังกายเป็นทางออกที่ดีที่สุดของการปกป้องผิวจากน้ำตาล

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หน้าเด้งด้วย ฟองเบียร์


สาวๆ ที่อยากให้ใบหน้ามีสีเลือดฝาดล่ะก็ "ยิ้มหวาน" มีวิธีมาฝากนะ ก่อนอื่นต้องไปหาเบียร์มาก่อนนะจ๊ะ ประมาณ 1/2 ถ้วยเล็ก น้ำผึ้งแท้ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วก็ไข่ไก่ 1 ฟอง


จากนั้นก็นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นให้เป็นเนื้อครีมที่เนียนละเอียด แล้วก็นำเจ้าเนื้อครีมจากฟองเบียร์สดนั่นแหละ มาพอกหน้าที่สะอาดของเราซะ พอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือจะใช้โฟมล้างหน้าที่ใช้เป็นประจำก็ได้ ทำอาทิตย์ละครั้ง ผิวหน้าก็จะกลับมาเต่งตึง และสดใสเปล่งปลั่งอย่าบอกใครเชียว